ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ปิดในแดนบวก แตะระดับจุดสูงสุดใหม่ โดย สหภาพยุโรปกำลังพิจารณาที่จะยกเลิกภาษีสำหรับสินค้าอุตสาหกรรมทั้งหมดของสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี ตลาดตราสารหนี้แสดงสัญญาณความตึงเครียดบางอย่าง โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปีปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
บทสรุป
กระแสเงินในวันที่ 26 ส.ค. 2025 พบว่า 1) กระแสเงินในตราสารหนี้ผันผวน 2) มีแรงเก็งกำไรในกลุ่มการเงินและหุ้นขนาดเล็ก 3) มีแรงซื้อในโลหะมีค่า 4) มีแรงซื้อเก็งกำไรในตลาดจีน 5) มีแรงขายในกลุ่มเทคโนโลยี 6) กลุ่ม Consumer Discretionary และ Staples มีแรงขาย
NVDA เผยงบและแนวโน้มโตในระดับสูง แต่ด้วยความคาดหวังสูงของตลาด โดยมีการเทียบกับคาดการณ์ในระดับ Upper bound ทำให้รายได้ Data Center และแนวโน้มอาจจะออกมาผิดคาดเล็กน้อยซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลง อย่างไรก็ดีเรามองเป็นโอกาสในการลงทุนที่ดีหลังประเมินปัจจัยพื้นฐานยังคงแกร่งและมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในระยะถัดไป
กลุ่มซอฟต์แวร์เผยงบดีกว่าคาด แต่หุ้นตอบสนองในทิศทางต่างกัน โดย CRWD หุ้นลงหลังแนวโน้มต่ำกว่าคาดเล็กน้อย อย่างไรก็ดีหากดู ARR จะเห็นได้ว่าดีกว่าคาดสะท้อนได้ว่าแนวโน้มอาจจะไม่ได้แย่อย่างที่ตลาดกังวล ทำให้เราแนะคาดหวังการฟื้นตัวของราคาหุ้น ส่วน SNOW งบและแนวโน้มดีกว่าคาด ทำให้เรายังแนะลงทุนในช่วงที่หุ้นย่อตัวลง
กลุ่มเสื้อผ้า Urban Outfitters, Abercrombie & Fitch และ Anta Sports รายงานผลประกอบการโดยรวมดีกว่าคาด อย่างไรก็ดี ในระยะข้างหน้าโดยเฉพาะไตรมาสสาม ยังมีความน่ากังวลจากผลกระทบของภาษีนำเข้า รวมไปถึงการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดกีฬาจีน ส่งผลให้ เราแนะนำหลีกเลี่ยงลงทุน 3 บริษัทข้างต้น ในช่วงนี้
Wuliangye Yibin รายงานงบครึ่งปีแรก รายได้ เพิ่มขึ้น 4.2% กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 2.3% ต่ำกว่าคาดทั้งหมด โดยมีผลกระทบมาจาก แรงกดดันด้านราคา และ นโยบายทางการจีน การแข่งขันด้านราคายังคงเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะกดดันแนวโน้มการเติบโตในครึ่งปีหลังนี้ ซึ่งคาด Moutai ผลประกอบการจะออกมาภาพเช่นเดียวกัน เรายังคงแนะนำหลีกเลี่ยงกลุ่มสุราจีน
Meituan งบ 2Q25 รายได้ +12% YoY แต่กำไรลดลง -97% YoY ต่ำว่าที่คาด จากสงครามราคากดดัน margin ธุรกิจหลักเหลือเพียง 5.7% บริษัทเตือน 3Q25 จะขาดทุนหนักขึ้นเพราะต้องปกป้อง market share และลงทุนต่อ เรามองระยะสั้นควรหลีกเลี่ยง แต่หากการแข่งขันคลี่คลาย Meituan ยังมีโอกาสเด่นในฐานะผู้นำ food delivery ระยะกลาง–ยาว
จีนยังเผชิญสงครามราคา EV ยืดเยื้อ แม้รัฐพยายามสกัด แต่ผู้ผลิตใหญ่ยังลดราคาต่อเนื่องกดดัน margin ขณะที่ยุโรปยอดขายรถเริ่มฟื้นจากมาตรการอุดหนุน หนุน EV เร่งตัว Tesla ยังครองผู้นำ เรามองจีนควรเลือก BYD, Xiaomi, XPeng ที่ได้เปรียบด้านต้นทุน/นวัตกรรม ส่วนค่ายยุโรปยังเผชิญ BEV margin ต่ำ แนะหลีกเลี่ยง
