
1.ฟิวเจอร์สสหรัฐฯ ทรงตัว หลังร่วงหนักเหตุจ้างงานแข็งแกร่ง ทำนักลงทุนลดความหวัง Fed ลดดอกเบี้ยเดือนหน้า
2.ญี่ปุ่นอัดฉีดแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ ¥21.3 ล้านล้าน รมว.คลังส่งสัญญาณอาจแทรกแซงค่าเงินเยน
3.Bitcoin ทิ้งดิ่ง! แตะต่ำสุดใน 7 เดือน หลุด $86,000
4.การเมืองอังกฤษเผชิญงบตึงตัว จากยอดกู้ยืมรัฐบาลสูงกว่าคาด และยอดค้าปลีกที่ลดลง
5.น้ำมันจ่อติดลบรายสัปดาห์ ตุตลาดให้น้ำหนักข่าวเจรจาสันติภาพรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งอาจเพิ่มอุปทานน้ำมันในตลาด
6.SET ร่วงแรงกว่า -2% โดนแรงขาย DELTA และหุ้นใหญ่ หลังตลาดต่างประเทศกังวลหุ้นเทคโนโลยี
1. ฟิวเจอร์ส S&P 500 และ Nasdaq 100 ลดลงเล็กน้อย ขณะที่ Dow Futures เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดกำลังหาจุดสมดุลหลังจากเผชิญกับการปรับฐานอย่างรุนแรงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ดัชนีหลักทั้งสามมีแนวโน้มขาดทุนรายสัปดาห์อย่างหนัก โดยดัชนี S&P 500 ลดลง 2.9% ในสัปดาห์นี้ สาเหตุหลักมาจากการที่รายงานการจ้างงานเดือนกันยายนที่แข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ได้บั่นทอนความเชื่อมั่นของตลาด และทำให้นักลงทุนลดความคาดหวังในการลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed ในเดือนธันวาคมลง แม้ว่า Nvidia จะรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง แต่ก็ไม่สามารถต้านทานแรงขายที่เกิดขึ้นในวงกว้างได้
2. รัฐสภาญี่ปุ่นได้อนุมัติแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 21.3 ล้านล้านเยน (135 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อรักษาการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในภาคส่วนสำคัญ เช่น เซมิคอนดักเตอร์และ AI ขณะที่ความผันผวนของค่าเงินเยนยังคงอยู่ในความสนใจ Satsuki Katayama รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นกล่าวว่าการแทรกแซงค่าเงินมีความเป็นไปได้เพื่อจัดการกับการเคลื่อนไหวที่เก็งกำไรมากเกินไป แม้ว่าเงินเยนจะแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ แต่ก็ยังมีแนวโน้มอ่อนค่าลงกว่า 1.7% ในสัปดาห์นี้
3. Bitcoin ร่วงลงกว่า 6% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือนที่ 85,350 ดอลลาร์สหรัฐฯ และจ่อขาดทุนรายสัปดาห์กว่า 9% การลดลงนี้เป็นผลมาจากการเทขายสินทรัพย์เสี่ยงในวงกว้าง โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับมูลค่าหุ้นเทคโนโลยีที่สูงเกินไป และความไม่แน่นอนของการตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed ในเดือนธันวาคม ซึ่งข้อมูลตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งเมื่อเร็วๆ นี้ได้ลดโอกาสในการลดดอกเบี้ยลงอย่างมาก
4. Rachel Reeves รัฐมนตรีคลังอังกฤษเผชิญกับความท้าทายในการจัดทำงบประมาณประจำปี หลังจากตัวเลขการกู้ยืมของรัฐบาลในเดือนตุลาคมสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 17.4 พันล้านปอนด์ นอกจากนี้ ยอดค้าปลีกในประเทศยังลดลงมากกว่าที่คาด 1.1% ในเดือนตุลาคม และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคก็ลดลงในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งแสดงถึงความจำเป็นที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
5. ราคาน้ำมันดิบ Brent และ WTI ร่วงลงในวันนี้ และมีแนวโน้มขาดทุนรายสัปดาห์กว่า 3% ปัจจัยกดดันหลักคือข่าวที่สหรัฐฯ ผลักดันแผนสันติภาพระหว่างยูเครนและรัสเซีย ซึ่งหากบรรลุข้อตกลง อาจทำให้อุปทานน้ำมันกลับเข้าสู่ตลาดโลกมากขึ้น นอกจากนี้ ตลาดกำลังประเมินผลกระทบจากการคว่ำบาตรผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของรัสเซียอย่าง Rosneft และ Lukoil ที่จะมีผลบังคับใช้ในภายหลัง
6. SET Index ปิดวันนี้ที่ 1,254.40 จุด ลดลง 27.41 จุด (-2.14%) ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงอย่างรุนแรงตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ แรงกดดันหลักมาจากแรงขายหุ้น DELTA ซึ่งเป็นไปตาม Sentiment เชิงลบของกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีในตลาดต่างประเทศ และหุ้นใหญ่อื่นๆ ที่ปรับตัวลงตามกัน ตลาดขาดปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน และคาดว่ากระแสเงินทุน (Fund Flow) อาจจะไหลเข้าไปตลาดตราสารหนี้เพื่อเก็งกำไรการลดดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในเดือนธันวาคมนี้
-----
ที่มา: Investing.com และ InnovestX Research
แปลและเรียบเรียง: Content Team, InnovestX
ดาวน์โหลดแอป InnovestX วันนี้ เพื่อเข้าถึงโอกาสการลงทุนในหุ้นสหรัฐและตลาดทั่วโลก
📱 ดาวน์โหลดแอป: https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b