Bites for Dinner - เรื่องต้องรู้ก่อนเทรดคืนนี้ 9 ก.ค. 2568

🌙 เรื่องต้องรู้ก่อนเทรดคืนนี้ 9 กรกฎาคม 2568

 

1. ตลาดหุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐฯ ทรงตัวในวันพุธ นักลงทุนยังคงประเมินความคิดเห็นเรื่องภาษีจากอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ และรอการเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ครั้งล่าสุด โดยเมื่อวันอังคาร ตลาดหุ้น Wall Street ปิดผสมผสาน โดยบรรยากาศโดยรวมยังคงทรงตัว แม้จะมีข่าวเกี่ยวกับการค้าออกมาอย่างต่อเนื่อง ทรัมป์ได้ส่งจดหมายรายละเอียดอัตราภาษีที่เพิ่มขึ้นไปยังหลายประเทศ แต่นักลงทุนก็ยังคงใจชื้นจากการที่ทำเนียบขาวตัดสินใจขยายเส้นตายการเรียกเก็บภาษีออกไปเป็นวันที่ 1 สิงหาคม จากเดิมที่กำหนดไว้ว่าจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันนี้

 

2. ทรัมป์ยืนยันในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารว่า จะไม่มีการขยายเส้นตายออกไปอีก หลังจากที่ก่อนหน้านี้กล่าวว่า "ไม่แน่นอน 100%" เขากล่าวเสริมว่าการเจรจากับสหภาพยุโรปและจีนกำลังดำเนินไปด้วยดี แต่เตือนว่าสหภาพยุโรปกำลังจะได้รับจดหมายแจ้งภาษีของตัวเองในไม่กี่วันข้างหน้า ประธานาธิบดียังได้หยิบยกประเด็นการเก็บภาษีทองแดงนำเข้า 50% ซึ่งเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่านโยบายการค้าที่แข็งกร้าวของเขาไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประเทศเท่านั้น แต่รวมถึงภาคส่วนเฉพาะด้วย ทองแดงเป็นโลหะสำคัญที่ใช้ในการผลิตยานพาหนะ, อุปกรณ์ทางทหาร, โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน และอื่นๆ ทรัมป์ยังแนะนำว่าอาจมีการเปิดเผยภาษีอื่นๆ ในเร็วๆ นี้ ครอบคลุมตั้งแต่เภสัชกรรมไปจนถึงเซมิคอนดักเตอร์ ขณะเดียวกัน สก็อต เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังอ้างว่าภาษีของทรัมป์ได้สร้างรายได้ 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับสหรัฐฯ ในปีนี้ และคาดว่าตัวเลขอาจสูงถึง 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในสิ้นเดือนธันวาคม เบสเซนต์ชี้ว่าการเก็บภาษีหลักๆ เริ่มขึ้นในไตรมาสที่สอง เมื่อทรัมป์กำหนดภาษีพื้นฐาน 10% และยกเลิกภาษีสำหรับสินค้าบางประเภท เช่น เหล็ก อลูมิเนียม และรถยนต์ นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่ารายได้จากภาษีกลายเป็นกุญแจสำคัญสำหรับทำเนียบขาว เนื่องจากเงินทุนเหล่านี้สามารถช่วยชดเชยค่าใช้จ่ายของแพ็คเกจลดหย่อนภาษีและการใช้จ่ายมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ที่ทรัมป์ลงนามเป็นกฎหมายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

 

3. นักลงทุนกำลังจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมของ Fed ประจำเดือนมิถุนายน เพื่อค้นหาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า คณะกรรมการนโยบายการเงินคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25% ถึง 4.5% ในการประชุมดังกล่าว โดยอ้างถึงความรอบคอบในการใช้วิธีรอดูปฏิกิริยาต่อการตัดสินใจในอนาคต เมื่อผลกระทบจากภาษีของทรัมป์ชัดเจนขึ้น ในงานอีเวนต์ล่าสุด เจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed ได้ย้ำจุดยืนที่ระมัดระวังนี้ แต่ระบุว่าเจ้าหน้าที่อาจจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยแล้ว หากไม่ใช่เพราะความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษี นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงคาดการณ์ว่า Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งก่อนสิ้นปี 2568 โดยครั้งแรกคาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนกันยายน และอาจตามมาด้วยอีกครั้งในเดือนธันวาคม แต่ทิศทางยังคงไม่ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพาวเวลล์เผชิญแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากทรัมป์ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว ทรัมป์วิจารณ์ผู้นำ Fed อีกครั้งเมื่อวันอังคาร โดยเรียกเขาว่า "แย่มาก" และกระตุ้นให้เขาลาออก เพื่อที่เขาจะได้แต่งตั้งประธานคนใหม่ที่จะลดต้นทุนการกู้ยืม

 

4. เควิน แฮสเซ็ตต์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจของทำเนียบขาว กำลังกลายเป็น "ตัวเต็งที่จริงจัง" ในการขึ้นเป็นประธานเฟดคนต่อไปแทนพาวเวลล์ ตามรายงานของ Wall Street Journal เมื่อวันอังคาร แฮสเซ็ตต์เป็นหนึ่งในที่ปรึกษาเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดที่สุดของทรัมป์ และตอนนี้ถูกมองว่าเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมเหนือกว่าเควิน วอร์ช อดีตผู้ว่าการ Fed ซึ่งเคยเป็นตัวเต็งก่อนหน้านี้ แฮสเซ็ตต์ได้พบกับทรัมป์เพื่อพูดคุยเรื่องตำแหน่งงาน Fed อย่างน้อยสองครั้งในเดือนมิถุนายน รายงานของ WSJ ระบุ โดยอ้างแหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับเรื่องนี้ รายงานของ WSJ มีขึ้นท่ามกลางการคาดการณ์ว่าทรัมป์อาจเร่งรัดการคัดเลือกผู้สืบทอดตำแหน่งของพาวเวลล์ และอาจประกาศการตัดสินใจในปลายปีนี้ ทรัมป์เคยแต่งตั้งพาวเวลล์ให้ดำรงตำแหน่งนี้ในปี 2560

 

5. ดัชนี SET ปรับลงปิดที่ 1110.40 จุด (-5.25 จุด / -0.47%) โดยมีแรงซื้อมาจากกลุ่มขนส่ง รับเหมาฯ และวัสดุก่อสร้าง ขณะที่แรงขายมาจากกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ค้าปลีก ประกัน มีเดีย และบรรจุภัณฑ์ ตลาดถูกกดดันจากแผนภาษีทองแดงของสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนของการเจรจาการค้า ซึ่งส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายเบาบาง

 

-----
ที่มา: Investing.com และ InnovestX Research
แปลและเรียบเรียง: Content Team, InnovestX

 

ดาวน์โหลดแอป InnovestX วันนี้ เพื่อเข้าถึงโอกาสการลงทุนในหุ้นสหรัฐและตลาดทั่วโลก
📱 ดาวน์โหลดแอป: https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b