
1. S&P 500 พุ่งแรงสุดรอบ 6 สัปดาห์ นำโดยหุ้นเทค ขณะตลาดเพิ่มเดิมพันเฟดลดดอกเบี้ย
2. ทรัมป์เตรียมเยือนจีน ขณะสี จิ้นผิงกดดันประเด็นไต้หวัน
3. ยูเครน–สหรัฐฯ เห็นความคืบหน้าร่างกรอบเจรจาสันติภาพฉบับใหม่
4. อินเดียเตรียมผลักดันกฎหมายปฏิรูปชุดใหญ่เพื่อเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจ
5. รูปีแข็งค่าหลังธนาคารกลางอินเดียกลับเข้าแทรกแซงปกป้องค่าเงิน
6. ญี่ปุ่นยืนยันแผนประจำการขีปนาวุธบนเกาะใกล้ไต้หวันท่ามกลางความตึงเครียดจีน–ญี่ปุ่น
7. ครม. เศรษฐกิจไทยเห็นชอบมาตรการเร่งรัดและส่งเสริมการลงทุนเพื่ออนาคต
Bites for Breakfast
By INVX Investment Products & Strategy
25 November 2025
1. ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้นแรงนำโดยหุ้นเทค หลังนักลงทุนกลับมามั่นใจว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยเดือนธันวาคม โดย S&P 500 พุ่ง 1.5% ทำสถิติดีสุดในรอบ 6 สัปดาห์ ขณะที่ Nasdaq 100 เด้งกว่า 2% ส่วนบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ อายุ 10 ปีลดลงสู่ 4.03% สะท้อนความคาดหวังผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มขึ้น คำกล่าวของผู้กำหนดนโยบายเฟดหลายราย—ทั้ง Waller, Williams และ Daly—ช่วยหนุนมุมมองว่าการลดดอกเบี้ยยังเป็นไปได้ท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจที่ล่าช้าเพราะการปิดหน่วยงานรัฐบาล ตลาดยังจับตาข้อมูลค้าปลีก PPI และคำขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์นี้
2. ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ และปธน.สี จิ้นผิงพูดคุยทางโทรศัพท์เป็นครั้งแรกนับจากการบรรลุข้อตกลงหยุดขึ้นภาษีในเดือนก่อน โดยหารือประเด็นการค้า การซื้อถั่วเหลือง การควบคุมการส่งออกเฟนทานิล และสถานการณ์รัสเซีย–ยูเครน ทรัมป์ระบุว่าจะเดินทางเยือนปักกิ่งเดือนเมษายนและเชิญสีเยือนสหรัฐฯ ในปีหน้า ขณะที่สีเน้นว่าการรวมไต้หวันเข้ากับจีนเป็นส่วนสำคัญของระเบียบโลกหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ความตึงเครียดระหว่างจีน–ญี่ปุ่นเรื่องไต้หวันยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อความสัมพันธ์สหรัฐฯ–จีน ด้านการค้า ทั้งสองฝ่ายยังเจรจาเงื่อนไขการส่งออกแร่หายาก และสหรัฐฯ อยู่ระหว่างพิจารณาอนุญาตขายชิป AI ขั้นสูงให้จีน ซึ่งอาจส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุนและภาคเทคโนโลยีโลก
3. ผู้ช่วยคนสำคัญของปธน. โวโลดีมีร์ เซเลนสกี เผยว่า ทีมเจรจายูเครนและสหรัฐฯ ได้จัดทำ “เอกสารกรอบสันติภาพฉบับปรับปรุง” หลังการหารือในเจนีวาที่มีความคืบหน้าอย่างชัดเจน โดยยูเครนมุ่งขอเงื่อนไขที่เอื้อต่อฝ่ายตนมากขึ้นจากข้อเสนอที่โดนัลด์ ทรัมป์สนับสนุน ขณะที่สหรัฐฯ ระบุเส้นตายวันที่ 27 พ.ย. สามารถขยับได้ การเจรจามีความคืบหน้าหลังข้อเสนอ 28 ข้อฉบับก่อนสร้างแรงสั่นสะเทือนทางการทูตตลอดสุดสัปดาห์ โดยข้อตกลงใด ๆ ต้องได้รับอนุมัติจากเซเลนสกี ทรัมป์ และวลาดิเมียร์ ปูติน ด้านพันธบัตรยูเครนสกุลดอลลาร์รุ่นครบกำหนดปี 2029 ปรับขึ้นสู่ระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ สะท้อนมุมมองบวกต่อการเจรจา เจ้าหน้าที่ยุโรปพอใจกับร่างล่าสุด เพราะได้ลบข้อเสนอที่ให้ใช้สินทรัพย์รัสเซียมูลค่า 100 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถูกแช่แข็งไว้ในยุโรปและสหรัฐฯ นำไปใช้ฟื้นฟูยูเครนออกไปแล้ว ซึ่งช่วยลดแรงต้านจากพันธมิตรยุโรปที่กังวลด้านกฎหมายและความสัมพันธ์กับรัสเซีย
4. นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีเตรียมเสนอร่างกฎหมายกว่า 12 ฉบับในสมัยประชุมรัฐสภาฤดูหนาวเริ่ม 1 ธ.ค. เพื่อเร่งปฏิรูปและดึงดูดการลงทุน โดยกฎหมายครอบคลุมตั้งแต่ประกันภัย พลังงานนิวเคลียร์ ไปจนถึงระบบล้มละลาย สอดคล้องกับเป้าหมายผลักดันอินเดียเป็นประเทศพัฒนาแล้วภายในปี 2047 ซึ่งต้องอาศัยอัตราการเติบโตใกล้ 8% ขณะที่ Bloomberg คาดว่า GDP ไตรมาส 3 จะขยายตัว 7.3% ท่ามกลางแรงกดดันจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่ขึ้นภาษีนำเข้าอินเดีย 50% รัฐบาลยังเดินหน้าปฏิรูประบบภาษี GST และกฎหมายแรงงาน พร้อมเสนอปรับกฎ FDI ในประกันภัย เปิดทางลงทุนเอกชนในพลังงานนิวเคลียร์ และปรับปรุงกฎหมายตลาดทุนเพื่อเพิ่มสภาพแวดล้อมธุรกิจที่เอื้อต่อการลงทุน
5. ค่าเงินรูปีฟื้นตัวขึ้นสูงสุด 0.4% สู่ระดับ 89.08 ต่อดอลลาร์ หลังธนาคารกลางอินเดีย (RBI) กลับเข้าซื้อขายในตลาดเงินทั้งในและต่างประเทศเพื่อสกัดการอ่อนค่ารุนแรงเมื่อวันศุกร์ ซึ่งรูปีแตะระดับอ่อนค่าสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 89.48 จากแรงกดดันของภาษีสหรัฐฯ 50% ต่อสินค้าอินเดีย การแทรกแซงครั้งนี้ทำให้สัญญาณด้านสภาพคล่องและ bid–ask spreads ในตลาดกว้างขึ้น ขณะที่รูปีเป็นสกุลเงินที่อ่อนค่ามากที่สุดในเอเชียปีนี้ และความอ่อนค่าต่อเนื่องอาจซ้ำเติมเงินเฟ้อเพราะอินเดียต้องนำเข้าน้ำมันเป็นหลัก ทั้งนี้ ตลาดกำลัง “price in” ความผันผวนของค่าเงินรูปีเพิ่มขึ้นช่วงปลายปี จากแรงกดดันจากการขาดดุลการค้า ภาษีนำเข้าสหรัฐฯ และการไหลออกของเงินทุน ขณะที่ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของ RBI ลดลงราว 10 พันล้านดอลลาร์ตั้งแต่กลางเดือนกันยายน สะท้อนภาระการแทรกแซงที่สูงขึ้นเพื่อต้านแรงอ่อนค่า
6. รัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่น ชินจิโร โคอิสุมิ ยืนยันแผนประจำการขีปนาวุธ Type-03 Chu-SAM บนเกาะโยนากุนิซึ่งอยู่ห่างไต้หวันเพียงราว 110 กิโลเมตร โดยให้เหตุผลว่ามาตรการดังกล่าวช่วยเพิ่มการยับยั้งและลดความเสี่ยงการถูกโจมตี แม้จีนวิจารณ์ว่าเป็น “การยั่วยุที่อันตรายอย่างยิ่ง” การเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเสริมกำลังบนหมู่เกาะตอนใต้ท่ามกลางความกังวลต่อศักยภาพทางทหารของจีน หลังเหตุซ้อมรบในปี 2022 ทำให้ขีปนาวุธจีนตกใกล้โยนากุนิ ความตึงเครียดยังเพิ่มขึ้นจากข้อถกเถียงเกี่ยวกับคำกล่าวของนายกฯ ทาคาอิจิเรื่องความเป็นไปได้ที่ญี่ปุ่นอาจเข้าร่วมปฏิบัติการหากจีนโจมตีไต้หวัน ซึ่งกระทบตลาดญี่ปุ่นและเพิ่มความผันผวนของค่าเงินเยนในระยะสั้น
7. ครม. เศรษฐกิจไทยเห็นชอบมาตรการเร่งรัดและส่งเสริมการลงทุนเพื่ออนาคต มอบหมาย BOI เดินหน้า 3 มาตรการ คือ Thailand Fast Pass ปลดล็อกการลงทุนขนาดใหญ่, มาตรการสร้างบุคลากรทักษะสูง 1 แสนคน และมาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ดันมูลค่าการลงทุนจริง 4.8 แสนลบ. ส่งต่อที่ประชุม ครม. วันนี้
ประเด็นที่ต้องติดตาม: Retail Sales MoM ของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. คาดว่าจะออกมาที่ 0.3% จากก่อนหน้าที่ 0.6% และ PPI MoM ของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. คาดว่าจะออกมาที่ 0.5% จากก่อนหน้าที่ -0.1%