Bites for Breakfast

Bites for Breakfast - เรื่องต้องรู้ ก่อนเทรด วันนี้ 7 พ.ย. 2568

7 Nov 25 7:30 AM
Bites-Thumbnail-01
สรุปสาระสำคัญ

1. ตลาดหุ้นโลกปรับตัวลงนำโดยหุ้น Tech ขณะที่ BoE คงอัตราดอกเบี้ย
2. BoE คงอัตราดอกเบี้ย แต่ส่งสัญญาณเตรียมลดดอกเบี้ยเร็ว ๆ นี้
3. จีนเร่งสร้าง data center หนุนอุตสาหกรรม AI แข่งสหรัฐ
4. ผู้ถือหุ้น Tesla อนุมัติแพ็คเกจค่าตอบแทน Elon Musk มูลค่า $8.78 แสนล้าน
5. ทรัมป์บรรลุข้อตกลงกับ Eli Lilly และ Novo Nordisk เพื่อลดราคายาลดน้ำหนัก
6. คลังชี้ ไทยยังคงเจรจาการค้ากับสหรัฐฯต่อ แม้ศาลสหรัฐฯกำลังพิจารณาคดีการขึ้นภาษีทรัมป์
7. MSCI Rebalance ไม่มีการถอดหุ้นไทยออก

Bites for Breakfast
By INVX Investment Products & Strategy
07 November 2025


1. ดัชนีหุ้นหลักทั่วโลกปรับตัวลดลง โดย S&P 500 และ Nasdaq ร่วงกว่า 1% นำโดยหุ้นกลุ่ม Technology และ Consumer Discretionary ขณะที่ดัชนี SOX Semiconductor ลดลง 2.4% หุ้น Qualcomm ร่วง 3.6% หลังเตือนส่วนแบ่งตลาดชิปใน Samsung อาจลดลง ด้าน Bank of England (BoE) มีมติ 5-4 คงอัตราดอกเบี้ยที่ 4.0% ส่งผลให้เงินปอนด์แข็งค่า 0.64% สู่ $1.3132 นักลงทุนกังวล Valuation ที่สูง, ความไม่แน่นอนจาก U.S. government shutdown, และผลกระทบจากการขึ้นภาษีของทรัมป์ ในด้านข้อมูลแรงงานสหรัฐฯ อ่อนแอ หนุนคาดการณ์ให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย ส่งผลต่อดอลลาร์อ่อนค่า,อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯลดลง ขณะที่ราคาน้ำมันปรับตัวลงจากความกังวลอุปทานล้นเกิน


2. ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามเดิม แต่การลงคะแนนเสียงของกรรมการฯ ใกล้เคียงมาก และมีสัญญาณว่าการปรับลดดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ ท่ามกลางเศรษฐกิจ UK ที่ชะลอตัวและเงินเฟ้อเริ่มลดลง โดยการประชุมรอบนี้สร้างสัญญาณบวกต่อตลาดตราสารหนี้และหุ้นยุโรป แต่ก็ยังต้องจับตาท่าทีการใช้งบประมาณฤดูใบไม้ร่วงของรัฐที่จะมีผลต่อทิศทางนโยบายการเงิน


3. จีนเร่งกลยุทธ์ขับเคลื่อนอุตสาหกรรม AI ด้วยการสร้างกลุ่มศูนย์ข้อมูลซูเปอร์คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ (chip clusters) พร้อมใช้จุดแข็งด้านพลังงานราคาถูกและรัฐสนับสนุนเต็มที่ เพื่อเร่งตามและแข่งกับสหรัฐในด้านศักยภาพ AI แม้ยังถูกจำกัดจากการขาดแคลนชิปขั้นสูงและถูกคว่ำบาตรจากนโยบายสหรัฐ จีนเน้นสร้าง ecosystem ที่แข็งแรงในประเทศและกำลังใช้งบมหาศาลอัดใส่พื้นฐานโครงสร้างพลัง AI ทั้งด้านทรัพยากร ฮาร์ดแวร์ และฝีมือคน เตรียมพร้อมรับมือสงครามเทคโนโลยีระดับโลก


4. ผู้ถือหุ้น Tesla ลงมติอนุมัติแพ็คเกจค่าตอบแทนสูงสุด $8.78 แสนล้านให้กับ CEO Elon Musk ในช่วง 10 ปีข้างหน้า โดยแผนนี้ผูกกับพัฒนาการของบริษัท (milestone) สำคัญ เช่น การส่งมอบรถยนต์ 20 ล้านคัน, มี robotaxi 1 ล้านคัน, ขายหุ่นยนต์ 1 ล้านตัว และสร้างกำไร (core profit) สูงสุด $400 พันล้าน ทั้งนี้ Elon Musk จะได้รับหุ้น Tesla สูงสุด $1 ล้านล้าน แต่ต้องจ่ายคืนบางส่วนให้บริษัท การอนุมัติครั้งนี้แม้มีเสียงคัดค้านจากนักลงทุนรายใหญ่ เช่น Norway sovereign wealth fund แต่ถูกมองว่าเป็นบวกต่อหุ้น Tesla และช่วยคลายความกังวลเรื่องโฟกัสของ Elon Musk ที่กระจายไปยังธุรกิจอื่นและการเมือง


5. ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศข้อตกลงร่วมกับบริษัทยายักษ์ใหญ่อย่าง Eli Lilly และ Novo Nordisk เพื่อลดราคายาลดน้ำหนักที่ได้รับความนิยมในหมู่ชาวอเมริกัน โดยรายละเอียดของข้อตกลงนี้มุ่งเน้นช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายบางส่วนในสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยา สวัสดิการผู้ป่วย โดยยอดขายอาจเพิ่มขึ้น ในขณะที่กำไรต่อหน่วยอาจลดลง


6. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของไทย เปิดเผยว่าแม้ศาลฎีกาของสหรัฐอเมริกากำลังพิจารณาข้อพิพาทเกี่ยวกับการเก็บภาษีตอบโต้ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ไทยยังคงเดินหน้าเจรจากับสหรัฐอเมริกาตามกระบวนการที่กำหนดไว้โดยไม่หยุดรอผลคำตัดสินของศาล สิทธิ์ในการเจรจารายละเอียดจะมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ดำเนินการ โดยไทยจะใช้โอกาสนี้ในการสร้างยุทธศาสตร์เชิงรุกเพื่อรักษาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและป้องกันผลกระทบจากมาตรการภาษีที่สหรัฐอาจจะนำมาใช้


7. MSCI ประกาศผลการปรับน้ำหนักหุ้นในดัชนีรอบล่าสุด (พ.ย. 2025) โดยไม่มีการถอดหุ้นไทยออกจากคำนวณ MSCI Emerging Markets มีเพียงการปรับลดน้ำหนักหุ้นไทยในตะกร้า EM เล็กน้อย จาก 1.01% เหลือ 1.00% (-0.01%) ซึ่งถือว่าต่ำมากและไม่กระทบภาพรวม สำหรับหุ้นไทยที่อยู่ในดัชนี MSCI Thailand Index ปัจจุบันเหลืออยู่ 19 ตัว ถือว่าเป็นข่าวดี สถานการณ์นี้ช่วยประคองความเชื่อมั่นต่อตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ถูกกดดันจากปัจจัยภายนอกและการไหลออกของเงินทุน


ประเด็นที่ต้องติดตาม: การส่งออกของจีน เดือน ต.ค. คาดเติบโตขึ้น 3.0% YoY ก่อนหน้าที่ 8.3% YoY

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5