Bites for Breakfast - เรื่องต้องรู้ ก่อนเทรด วันนี้ 28 ส.ค. 2568

Bites for Breakfast - เรื่องต้องรู้ ก่อนเทรด วันนี้ 28 ส.ค. 2568

Bites for Breakfast
By INVX Investment Products & Strategy
28 August 2025

1. ดัชนีหุ้นหลักปรับตัวขึ้นโดย S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก่อนการประกาศผลประกอบการของ Nvidia ขณะที่ดอลลาร์ฟื้นตัวเล็กน้อยแม้มีความกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของ Fed หลังทรัมป์ขู่ปลด Lisa Cook หุ้น Nvidia ร่วงประมาณ 3% ในการซื้อขายหลังตลาดปิด แม้บริษัทคาดการณ์รายได้ไตรมาส 3 สูงกว่าที่ Wall Street คาดการณ์ นักลงทุนยังคงจับตาหุ้นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ AI ซึ่งช่วยผลักดันดัชนีหุ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ด้าน Fed funds futures บ่งชี้โอกาส 84% ที่จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน

2. Nvidia คาดการณ์รายได้ไตรมาส 3 ที่ 54 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 53.14 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ราคาหุ้นลดลงราว 3% ในการซื้อขายช่วงเย็น เนื่องจากผลประกอบการ data center ต่ำกว่าที่คาดและความไม่แน่นอนในตลาดจีน บริษัทระบุว่าไม่ได้รวมการขายชิป H20 ในจีนในการคาดการณ์ เพราะรัฐบาลสหรัฐฯ ต้องการเก็บ 15% จากการขายชิปดังกล่าว แต่ยังไม่มีกฎหมายรองรับ ความต้องการชิป AI ยังคงสูงจากบริษัท cloud providers ขณะที่ CFO เผยโครงการ "sovereign AI" คาดว่าจะสร้างรายได้ 20 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีนี้ นอกจากนี้ บริษัทยังอนุมัติการซื้อหุ้นคืนเพิ่มอีก 60 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

3. กำไรภาคอุตสาหกรรมจีนลดลง 1.5% ในเดือนกรกฎาคม เทียบกับปีก่อน นับเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ท่ามกลางอุปสงค์ที่ซบเซาและภาวะ deflation ที่ factory-gate แม้รัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นการบริโภคและควบคุมสงคราม price wars แต่ยังไม่เห็นผลชัดเจน เนื่องจากแรงกดดันจากภาวะเงินฝืดและตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซายาวนาน บริษัทผู้ผลิต solar รายใหญ่ของจีนรายงานผลขาดทุนเพิ่มขึ้นในครึ่งปีแรกจากราคาที่ลดลง ขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์ของรัฐอย่าง Anhui Jianghuai Automobile พลิกขาดทุน 772.8 ล้านหยวน จีนจำเป็นต้องเพิ่มความยืดหยุ่นและความแน่นอนของนโยบายเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนภายนอก

4. ปลายเดือนสิงหาคม 2025 อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ข้ามคืนและ 1 เดือนของฮ่องกง (HIBOR) พุ่งทะลุ 3% สูงสุดในรอบหลายเดือน ส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมและความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวได้รับแรงกดดันใหม่ นักวิเคราะห์ Morgan Stanley และ DBS เตือนว่าหาก HIBOR อยู่สูงเกินครึ่งปี ดอกเบี้ยแพงจะชะลอความต้องการกู้ยืม-ลงทุน กดดันตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้น ขณะเดียวกัน ด้านบวกต่อธนาคารคือ Net Interest Income เพิ่มขึ้นหลังโดนกดดันมาหลายไตรมาส แม้เศรษฐกิจ Q2 จะโตเร็วสุดรอบปีแต่แรงกดดันการเงินและทุนไหลออกยังสร้างความเปราะบางต่อการฟื้นตัว ฮ่องกงเผชิญทั้งวงจรดอกเบี้ยขาขึ้นและเงินทุนตึงตัวหลัง HKMA ต้องป้องกันค่าเงิน

5. ธปท. เปิดเผยรายงานการประชุม กนง. เมื่อ 13 ส.ค. 2025 โดยมีมติเอกฉันท์ลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 1.50% ต่อปี โดยมองว่านโยบายการเงินควรอยู่ในระดับที่ผ่อนคลายเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ ท่ามกลาง policy space ที่จำกัด โดยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยขยายตัวดีในครึ่งแรกของปีจากการส่งออกและการผลิต แต่ครึ่งหลังมีแนวโน้มชะลอ และปี 2026 จะเติบโตต่ำกว่าศักยภาพจากแรงกดดันหลายด้าน ทั้งมาตรการภาษีสหรัฐฯ การนำเข้าสินค้าเพิ่ม การชะลอตัวของนักท่องเที่ยว และรายได้แรงงานอิสระที่เปราะบาง อีกทั้งแรงขับเคลื่อนสำคัญอย่างภาคส่งออก ท่องเที่ยว และการบริโภคกำลังอ่อนแรง ซ้ำเติมปัญหาเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจ ขณะที่เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำจากปัจจัยอุปทาน จึงไม่เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตและช่วยลดค่าครองชีพ แต่ยังต้องจับตาความเสี่ยงจากอุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแรงอาจกดเงินเฟ้อต่ำต่อเนื่อง.

ประเด็นที่ต้องติดตาม: Initial Jobless Claims ของสหรัฐฯ คาดการณ์ที่ 2.31 แสนตำแหน่ง ก่อนหน้าที่ 2.35 แสนตำแหน่ง