ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้น นำโดยตลาดหุ้นเอเชียหลังจากการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่าง Donald Trump และXi Jinping ก่อนพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง สร้างความหวังว่าความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ อาจไม่รุนแรงอย่างที่กังวลกัน ด้าน S&P 500 Future +0.4% หลังทรัมป์ยังไม่ประกาศขึ้นภาษีศุลกากรกับจีนในวันแรก รวมถึงท่าทีไม่ Aggressive อย่างที่ตลาดมอง
บทสรุป
-
กระแสเงินในวันที่ 14 ม.ค. 2025 1) กระแสเงินในตราสารหนี้ผันผวน 2) มีแรงซื้อในโลหะมีค่าเป็นผลจากแรงขายในตลาดสินทรัพย์เสี่ยง 3) กระแสเงินไหลเข้าหุ้นตลาดหุ้นโลก 4) มีแรงเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งเน้นไปที่ธีม AI 5) กระแสเงินในตลาด EM และตลาดจีนผันผวนจากค่าเงินดอลลาร์ 6) มีแรงขายในหุ้นกลุ่ม Healthcare 7) กลุ่มพลังงานมีกระแสเงินค่อนข้างผันผวนแต่มีแนวโน้มไปทิศทางขายจากความกังวลด้านอุปทาน 8) มีแรงซื้อในกลุ่มการเงินหลังตัวเลขเศรษฐกิจไม่ได้แย่อย่างที่กังวลและคาดการณ์ว่าผลประกอบการ 4Q24 มีแนวโน้มดี
-
Donald Trump เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งปธน. สหรัฐฯ พร้อมผลักดันสหรัฐฯ เข้าสู่ “ยุคทอง” และเผยถึงนโยบายหลายรายการซึ่งเรามองกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบหลัก เช่น กลุ่มยานยนต์: นโยบายที่เกี่ยวข้องคือการยกเลิกข้อบังคับส่งเสริม EV ด้านกลุ่มพลังงาน: การเพิ่มการผลิตพลังงานในประเทศ และยกเลิกข้อจำกัดด้านพลังงานหมุนเวียน รวมถึงยกเลิกข้อบังคับพลังงานสะอาด
-
หากอิงสถิติทิศทาง S&P500 ในอดีตหลังจากวันพิธี เราประเมินว่าในระยะถัดไป 1) ตลาดมีแนวโน้มตอบสนองเชิงบวกในวันพิธีและมีแนวโน้มปรับตัวต่อเนื่องในช่วง 1-3 เดือนให้หลัง 2) ผลตอบแทนในช่วงปธน.เข้ารับตำแหน่งในวาระที่สองจะดีกว่าในช่วงวาระแรก 3) ภาพรวมทุกกลุ่มอุตฯในอดีตสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดี แต่จะมีความผันผวนตามทิศทางการดำเนินนโยบายของแต่ละปธน.
-
เศรษฐกิจจีนในไตรมาส 4 เริ่มเห็นการฟื้นตัว จีนประกาศ GDP ทั้งปี 2024 เติบโต 5.0% ซึ่งบรรลุเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้แต่การเติบโตนั้นไม่สมดุลจากการบริโภคภายในประเทศยังอ่อนแอ ประกอบกับพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่าง Trump และ Xi ก่อนพิธีสาบานตน ทำให้ท่าทีของทางสหรัฐที่มีต่อจีนบนเรื่องการค้าน้อยลง ซึ่งมองว่าจะทำให้ภาพตลาดหุ้นจีนคลายปัจจัยกดดันได้และเริ่มดูดีขึ้น
-
Moutai เผยงบในเบื้องต้นปี 2024 การเติบโตเป็นไปตามคาด สำหรับแน้วโน้มในปี 2025 เราคาดว่าจะมีการเติบโตที่ช้าลงเนื่องจากความต้องการที่ลดลง แต่เราประเมินผลประกอบการในปีนี้น่าจะดีขึ้นจาก 1) การลดปริมาณการผลิตเพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาขายส่ง 2) บริษัทเริ่มดำเนินการซื้อหุ้นคืน 3) มาตรการส่งเสริมการบริโภคของรัฐที่คาดจะมีออกมาเพิ่มขึ้นในปีนี้ ทำให้เราแนะสะสม
-
Novo Nordisk หนึ่งในรายการการเจรจาราคายาสำหรับ Medicare Part D ของ CMS ถูกประเมินผลกระทบ 10% ของคาดการณ์รายได้รวมของบริษัทในปี 2027 เรามองเป็น Sentiment เชิงลบ ที่จะเข้ามากดดันดันราคาหุ้นเพิ่มเติมจากความกังวล 1) การแข่งขันเพิ่มขึ้นใน 2H25 2) ปัญหา Supply Chain และ 3) ผลการทดลองยาใหม่ไม่เป็นไปตามคาด
-
ในช่วงนี้ตลาดยังคงกังวลต่อการปรับลดดอกเบี้ยของ Fed ที่อาจน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ รวมถึงการดำเนินนโยบายของทรัมป์ที่สร้างความกังวลต่อตลาด ทำให้ระยะสั้นตลาดยังมีทิศทางผันผวน แต่อย่างไรก็ดีเริ่มเข้าสู่การประกาศงบ 4Q24 ทำให้เรามองว่าตลาดเริ่มกลับมาโฟกัสประเด็นจุลภาคมากขึ้น ขณะที่เราแนะเก็งกำไรหุ้นที่คาดงบจะออกมาดีอย่าง NFLX (TP: 931.3$) และ AMEX (TP: 305.2$)
