Bites for Dinner

Bites for Dinner - เรื่องต้องรู้ก่อนเทรดคืนนี้ 2 ธ.ค. 2568

2 Dec 25 6:00 PM
Bites for Dinner - เรื่องต้องรู้ก่อนเทรดคืนนี้
สรุปสาระสำคัญ

1.BTC ร่วงหนัก ลากหุ้นคริปโตฯ ลงตามไปด้วย แม้จะเริ่มทรงตัว
2.ยีลด์พันธบัตรพุ่ง จากสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยของ BoJ กระทบทองร่วง
3.ตัวเลขภาคการผลิตสหรัฐฯ หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 ดันคาดการณ์ FED ลดดอกเบี้ย ยังอยู่ 85%
4.น้ำมันแกว่งตัว จับตาสัญญาณสันติภาพยูเครน-รัสเซีย และความตึงเครียดสหรัฐฯ-เวเนซุเอลา
5.Marvell ลุ้นดีลซื้อกิจการ Celestial AI มูลค่ากว่า 5 พันล้านดอลลาร์ หลังปิดตลาดวันนี้
6.SET +0.08% หนุนจาก Fund Flow ต่างชาติในกลุ่มแบงก์และท่องเที่ยว

🌙 เรื่องต้องรู้ก่อนเทรดคืนนี้ 2 ธันวาคม 2568

 

1. ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ล่วงหน้า (Futures) ปรับตัวลดลงเล็กน้อยในวันนี้ (2 ธ.ค.) ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่ไม่สดใสนัก หลังจากเมื่อวานนี้เป็นวันแรกของเดือนธันวาคมที่ตลาดถูกกดดันจากหลายปัจจัยหลัก ได้แก่ การร่วงลงอย่างรุนแรงของราคา Bitcoin, การปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (Treasury yields) และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ซบเซา โดยดัชนี Dow Futures, S&P 500 Futures และ Nasdaq 100 Futures ต่างลดลงราว 0.2% เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนีหลักปิดลบ หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลจากสถาบันจัดการอุปทาน (ISM) ที่แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมภาคการผลิตหดตัวเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกันในเดือนพฤศจิกายน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวไม่ได้ทำให้ความคาดหวังของตลาดต่อการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในการประชุมวันที่ 9-10 ธ.ค. นี้เปลี่ยนแปลงไป โดยปัจจุบันตลาดให้ความน่าจะเป็นถึง 85% ที่ Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) แสดงความเห็นว่าเงื่อนไขทางเศรษฐกิจมีความพร้อมสำหรับการพิจารณาขึ้นดอกเบี้ยในญี่ปุ่น

 

2. ราคา Bitcoin แกว่งตัวใกล้ระดับทรงตัวในวันนี้ หลังจากการเทขายอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาทะลุระดับ $84,000 เนื่องจากความกังวลต่อความเสี่ยงที่กลับมาในเดือนธันวาคม โดยล่าสุด ราคา Bitcoin ซื้อขายลดลง 0.4% อยู่ที่ $86,480.3 ตลอดเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา Bitcoin สูญเสียมูลค่าไปกว่า $18,000 ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2021 และเป็นการตอกย้ำความผันผวนของสินทรัพย์ดิจิทัล โดยราคาปัจจุบันลดลงประมาณ 30% จากระดับสูงสุดตลอดกาลที่เคยทำไว้เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนในเดือนตุลาคม การร่วงลงอย่างรุนแรงของ Bitcoin ยังได้ฉุดราคาหุ้นที่เกี่ยวข้องกับคริปโตฯ ลงด้วย

 

3. ราคาทองคำ (Spot Gold) ปรับตัวลง 0.4% มาอยู่ที่ $4,213.95 ต่อออนซ์ ขณะที่ U.S. Gold Futures ลดลง 0.7% มาอยู่ที่ $4,245.25 ณ เวลา 03:40 ET การปรับตัวลดลงเป็นผลมาจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ ที่ทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ซึ่งลดความน่าสนใจของทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทน นักลงทุนยังคงระมัดระวังก่อนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญหลายรายการและการตัดสินใจด้านนโยบายของ Fed อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นพื้นฐานต่อทองคำยังเป็นเชิงบวก เนื่องจากตลาดยังคงคาดการณ์อย่างมั่นคงว่า Fed อาจลดดอกเบี้ยอีกครั้งในสัปดาห์หน้า

 

4. ราคาน้ำมันดิบยังคงแกว่งตัว โดย Brent Futures ลดลง 0.2% อยู่ที่ $63.04 ต่อบาร์เรล และ U.S. West Texas Intermediate (WTI) Crude Futures ลดลง 0.1% อยู่ที่ $59.27 ต่อบาร์เรล ณ เวลา 03:45 ET ตลาดถูกถ่วงน้ำหนักจากปัจจัยหลายด้าน ทั้งความหวังเรื่องสันติภาพระหว่างยูเครน-รัสเซียที่ยังคงเปราะบาง และความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับเวเนซุเอลา หลังจากทางการสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่าอาจเพิ่มความเข้มงวดของมาตรการจำกัดต่อเวเนซุเอลา นอกจากนี้ กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ OPEC+ ได้ยืนยันเมื่อวันอาทิตย์ว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียงเล็กน้อยสำหรับเดือนธันวาคม แต่จะระงับการเพิ่มกำลังการผลิตในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า เนื่องจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด

 

5. ในรายงานผลประกอบการที่ค่อนข้างเบาบางในวันนี้ Marvell Technology (MRVL) บริษัทผลิตชิปสัญชาติสหรัฐฯ อาจเป็นที่น่าจับตา มีรายงานข่าวว่า Marvell ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญของ Broadcom ในตลาดชิปแบบกำหนดเองและชิปเครือข่าย กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาขั้นสูงเพื่อเข้าซื้อกิจการ Celestial AI สตาร์ทอัพด้านชิปและเทคโนโลยี Photonic Fabric โดยมีมูลค่าดีลที่อาจสูงกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตโฟลิโอของ Marvell ท่ามกลางความเฟื่องฟูของปัญญาประดิษฐ์ (AI) นักวิเคราะห์คาดว่า Marvell จะรายงานผลกำไรต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ $0.74 หลังตลาดปิดทำการในวันนี้

 

6. ตลาดหุ้นไทย (SET) ปิดที่ 1,277.58 จุด เพิ่มขึ้น 1.01 จุด (+0.08%) ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ค่อนข้างเบาบาง (32,540.19 ล้านบาท) โดยสามารถประคองตัวและพลิกกลับมาปิดในแดนบวกได้ในช่วงท้ายตลาด คาดการณ์ว่ามาจากการกระแสเงินทุน (Fund Flow) ของนักลงทุนต่างชาติที่ยังคงไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง โดยมีหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยหนุนหลัก แม้จะยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ ๆ เข้ามาสนับสนุนเพิ่มเติม ขณะที่ตลาดหุ้นอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน

 

-----
ที่มา: Investing.com และ InnovestX Research
แปลและเรียบเรียง: Content Team, InnovestX

 

ดาวน์โหลดแอป InnovestX วันนี้ เพื่อเข้าถึงโอกาสการลงทุนในหุ้นสหรัฐและตลาดทั่วโลก
📱 ดาวน์โหลดแอป: https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b

 

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5